ศาลาแก้วกู่สร้างขึ้นโดย “ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” หรือ “ปู่เหลือ” (พ.ศ. 2476 – 2539) ซึ่งมีประวัติชีวิตและผลงานอัศจรรย์ โดยย่อ ดังนี้ นางคำปลิว สุรีรัตน์ (พี่สาวคนโตของปู่เหลือ) ชาวหนองคาย แต่งงานได้ระยะหนึ่ง ฝันว่ามีชีปะขาวนำ นาคมรกตมามอบให้ แต่บอกว่าอีก 7 เดือนค่อยไปรับมาเป็นของตน
ต่อมาแม่ตั้งท้องลูกคนที่เจ็ด ในวัยสูงอายุและหมดประจำเดือนแล้ว และคลอดเมื่ออายุครรภ์ได้ 7 เดือน ทุกคนจึงเชื่อว่าเป็นไปตามนิมิตในฝัน นางคำปลิวและสามี จึงรับน้องชายมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ตั้งแต่แรกเกิด
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับศาลาแก้วกู่ :
1. คำว่า “กู่” ในศาลาแก้วกู่นั้นมีความหมายว่า “กุฏิ” , “อาวาส” หรือ “ศาลา” เพราะฉะนั้นคำว่า “ศาลาแก้วกู่” จึงเป็นคำซ้อนที่มีความหมายว่า “ศาลาแก้ว” นั่นเอง
2. ศาลาแก้วกู่เปิดให้เข้าชมสวนประติมากรรมปูนปั้นกลางแจ้งได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. แต่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปกราบสักการะร่างของ “พ่อปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” บนศาลาแก้วกู่ชั้น 3 ได้เฉพาะเวลา 07.00 – 17.00 น.เท่านั้น
3. ค่าบัตรเข้าชมศาลาแก้วกู่ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท